ประเทศไทยในปัจจุบัน การขนส่งภายในประเทศหลักๆยังคงทำโดยการใช้รถบรรทุกขนส่งทางถนน ส่วนประกอบของรถบรรทุกเหล่านี้ทางผู้ผลิตและประกอบรถจึงต้องมองหาวัสดุที่ มีความแข็งแรง ราคาถูก ระบายน้ำได้ และหากได้ความสวยงามเข้ามาด้วยก็จะดียิ่ง ดังนั้นตะแกรงเหล็กฉีกจึงเข้ามามีบทบาทและเห็นได้บ่อยมากในส่วนประกอบของรถขนส่งชนิดต่างๆ ในบทความนี้เราจะจำแนกตะแกรงเหล็กฉีกที่ใช้ในรถขนส่งต่างๆที่สามารถพบเห็นได้บ่อยๆตามท้องถนนได้ดังนี้ รถบรรทุกขนาดใหญ่(6ล้อ,10ล้อ) – มักพบตะแกรงเหล็กฉีกในส่วนของคอกกั้นสิ่งของด้านหลังและด้านข้าง ตะแกรงเหล็กฉีกที่ใช้ในรถประเภทนี้มักเป็นตะแกรงเหล็กฉีกรุ่นใหญ่ มีความหนา 4.5 มม.ขึ้นไป เนื่องจากต้องรับน้ำหนักของสินค้าได้มากๆถึงแม้จะไม่ได้เป็นพื้นรองรับสินค้าโดยตรงก็ตาม
1. รถบรรทุกขนาดใหญ่(6ล้อ,10ล้อ) – มักพบตะแกรงเหล็กฉีกในส่วนของคอกกั้นสิ่งของด้านหลังและด้านข้าง ตะแกรงเหล็กฉีกที่ใช้ในรถประเภทนี้มักเป็นตะแกรงเหล็กฉีกรุ่นใหญ่ มีความหนา 4.5 มม.ขึ้นไป เนื่องจากต้องรับน้ำหนักของสินค้าได้มากๆถึงแม้จะไม่ได้เป็นพื้นรองรับสินค้าโดยตรงก็ตาม
2. รถบรรทุกขนาดเล็ก(4ล้อ,กระบะ) – มักพบตะแกรงเหล็กฉีกในส่วนของกระจังหน้ารถ ส่วนที่ปิดตัวเครื่องยนต์ โดยสามารถใช้ประโยชน์ในการกันสิ่งของเข้าไปยังตัวเครื่องและยังได้ความสวยงามจากลวดลายของตะแกรงเหล็กฉีกอีกด้วย
3. รถขนส่งระยะใกล้(รถเข็น,รถซาเล้ง) – มักพบตะแกรงเหล็กฉีกในส่วนของพื้นที่วางสิ่งของ โดยมักจะใช้ตะแกรงเหล็กฉีกรุ่นใหญ่ที่มีความหนา 3.2 มม.ขึ้นไป เนื่องจากตัวตะแกรงเหล็กฉีกต้องรับน้ำหนักสินค้าที่อยู่บนรถนั้น ถึงแม้รถประเภทนี้มักจะขนส่งในระยะทางสั้นๆก็ตาม แต่ไม่ควรใช้ตะแกรงเหล็กฉีกรุ่นที่มีความหนาน้อยกว่า 3.2 มม. เพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง
